ชมความงามของ Cave of Crystals"ถ้ำคริสตัลยักษ์" ที่เมือง Naica ประเทศเม็กซิโก
ถ้ำคริสตัลเม็กซิกันที่ถูกค้นพบโดยบังเอิญ ใหญ่พอที่จะขับรถผ่านไปได้
เหมืองNaica ในรัฐชิวาวาของเม็กซิโกเป็นเหมืองที่ใช้งานได้ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของผลึกซีลีไนต์ (ยิปซั่ม) ที่ไม่ธรรมดา เหมืองNaica ตั้งอยู่ในเขตเมือง Saucillo เป็นเหมืองแร่ตะกั่ว สังกะสีและเงินที่ดำเนินการโดย Peñoles ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตตะกั่วรายใหญ่ที่สุดของเม็กซิโก ถ้ำที่ค้นพบในระหว่างการทำเหมืองมีผลึกของซีลีไนต์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 ฟุต (1.2 ม.) และยาว 50 ฟุต (15 ม.)
การก่อตัวของผลึก
Naica ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนสมัยอดีต และมีหินหนืดอยู่ใต้ดินด้านล่างถ้ำ หินหนืดทำให้น้ำร้อนระเหยขึ้นมาและอิ่มตัวไปด้วยแร่ธาตุรวมทั้งยิปซัมจำนวนมาก พื้นที่กลวงของถ้ำเต็มไปด้วยน้ำร้อนที่อุดมด้วยแร่ธาตุนี้และยังคงอยู่เเบบนี้ไปอีกประมาณ 500,000 ปี ในช่วงเวลานี้อุณหภูมิของน้ำยังคงมีเสถียรภาพมากที่มากกว่า 50 ° C ( มีความชื้น 100 เปอร์เซ็นต์! ) สิ่งนี้ทำให้คริสตัลสามารถก่อตัวและเติบโตได้ขนาดใหญ่โต
การค้นพบ
ถ้ำแรกที่ถูกค้นพบคือ ถ้ำ Cueva de las Espadas (ภาษาสเปน) หรือเรียกว่า ถ้ำแห่งดาบ (Cave of Swords) จากการสำรวจของคนงานเหมืองแร่เมื่อปีพ.ศ.2453 ตำแหน่งถ้ำอยู่ลึกลงไปใต้ดินประมาณ 120 เมตร โดยผลึกแร่มีความยาวประมาณ 1 เมตร
ต่อมาในเดือนเมษายน ปีพ.ศ.2543 หรือ 90 ปีจากการค้นพบถ้ำแห่งดาบ คนงานเหมืองสองพี่น้อง ฟลอย และจาเวียร์ เดลกาโด้ (Floy & Javier Delgado) ได้ค้นพบถ้ำที่เต็มไปด้วยผลึกแร่ขนาดใหญ่กว่าถ้ำแรก ซึ่งพบโดยบังเอิญระหว่างที่พวกเขากำลังระเบิดอุโมงค์ใต้ดินใกล้กับแนวรอยเลื่อน เพื่อหาสายแร่เงิน สังกะสี และตะกั่ว ให้กับบริษัทเหมืองแร่ Peñoles
ถ้ำคริสตัลยักษ์ที่ค้นพบนี้มีชื่อเป็นภาษาสเปนว่า Cueva de los Cristales หรือ Cave of the Crystals มีตำแหน่งลึกลงไปใต้ดินกว่า 300 เมตร ในชั้นหินปูน พื้นและฝนังถ้ำเต็มไปด้วยผลึกแร่ยิปซัมที่ก่อตัวเป็นแท่งยื่นออกมาภายในถ้ำ ผลึกแร่ที่ใหญ่ที่สุดมีความยาวถึง 12 เมตร ด้วยเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 เมตร และหนัก 55 ตัน ถ้ำผลึกยักษ์นี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาถ้ำที่ค้นพบ มีความสวยงามมาก และยังคงมีการรักษาสภาพผลึกแร่ไว้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ในปีเดียวกัน (พ.ศ.2543) ก็ยังได้ค้นพบถ้ำอีกสองแห่งชื่อว่า Queen’s Eye Cave และ Candles’ Cave
ในปีพ.ศ.2552 มีการค้นพบถ้ำใหม่ชื่อว่า Ice Palace ซึ่งอยู่ลึก 150 เมตรจากผิวดิน และมีผลึกแร่ที่เล็กกว่ามาก
เเล้วผลึกมีรูปร่างที่สวยงามเเบบนี้ได้ไงล่ะ?
เป็นเวลานับพันปีที่คริสตัลเติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่หายากและมีเสถียรภาพอย่างมากของถ้ำ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 136 องศาฟาเรนไฮต์ (58 องศาเซลเซียส) อย่างต่อเนื่องและในถ้ำเต็มไปด้วยน้ำที่อุดมด้วยแร่ธาตุที่ทำให้ผลึกมรขนาดใหญ่
ความยากลำบากในการใช้งานเเละสำรวจ
เหมืองไนกาต้องทำการสูบน้ำออกในอัตรา 55-100 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน!
ภายใต้ชุดสีแสดที่นักสำรวจใส่ในถ้ำนั้น ประกอบไปด้วยก้อนหรือแท่งน้ำแข็ง เพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกายและระบบหายใจ ซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 20 กิโลกรัมทีเดียว
ในอนาคตถ้าเหมืองนี้หยุดทำการปั๊มน้ำ ถ้ำคริสตัลก็จะจมอยู่ใต้ชั้นน้ำบาดาล การศึกษาผลึกแร่ยิปซัมจึงต้องรีบทำในขณะที่เหมืองยังเปิดทำการอยู่
ความเชื่อเรื่องเซเลไนท์ของคนไทย เชื่อว่า เป็นหินเรียกเงินเรียกทอง เป็นหินธรรมชาติบำบัด ช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ มีการขายกันในรูปเครื่องประดับ
สำหรับใครที่อยากได้ก็หาซื้อได้ตามออนไลน์เลยเเหละ (^o^;
ติดตามต่อได้ที่
TWITTER : https://twitter.com/sciencesssss1
Email : sciencesssssmail@gmail.com
-sciencesssss
-geothai
-sci-nature
Comments